
ปัญหาของแพง เงินเฟ้อสูง เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะแต่ว่าเมืองไทย ศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก อย่างมหานครลอนดอน อังกฤษ
ปัญหาของแพง เงินเฟ้อสูง เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกไม่ใช่เฉพาะแต่ว่าเมืองไทย ศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก อย่างมหานครลอนดอน อังกฤษ ก็กำลังเจอปัญหาวิกฤตของกินแพงเหมือนกันจนกระทั่งกระทบต่อวิถีชีวิตของคนลอนดอน บรรยากาศรอบศูนย์กลางเมืองหลวงของอังกฤษ ผู้คนต่างกลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติ ไม่ใส่หน้ากากอนามัยกันแล้ว ละเว้นคนที่มีการเสี่ยงหรือมีปัญหาด้านของสุขภาพเพียงแค่นั้นที่ยังใส่หน้ากากอนามัยอยู่ ต่างจากนักเดินทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเอเชีย ที่ยังนิยมสวมแมสก์ เพื่อคุ้มครองปกป้องการเสี่ยงจากการวัววิด-19
แม้การดำรงชีวิตทุกวันจะกลับมาดังเดิม แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ชาวอังกฤษกำลังพบเจอ โน่นเป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่ห่วยแตกลงและก็ปัญหาสิ่งของแพง โดยยิ่งไปกว่านั้นกรุงลอนดอนที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจยุโรป เสียงสะท้อนกลับจากชาวไทยที่อยู่ในอังกฤษ และก็ไกด์แคว้นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาของกิน และก็ ผลิตภัณฑ์อุปโภค บริโภค ที่ปรับขึ้นสูงมากมายในเวลานี้ มาจากวิกฤตราคาพลังงาน จากการสู้รบรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ค่ายังชีพมากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้กระทบต่อการใช้จ่ายของพสกนิกร ต่ำลง รวมทั้งนักเดินทางก็ลดการใช้จ่ายลงมาก
สอดคล้องกับจำนวนของ สสช.อังกฤษ (โอเอ็นเอส) ที่รายงานดรรชนีราคาลูกค้า (CPI) ของอังกฤษ พุ่งขึ้นกว่า 10.1% ในก.ค. จัดว่าสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี ตอนที่สื่อในประเทศอังกฤษเองกล่าวว่า สามัญชนที่อยู่ที่อาศัยในอังกฤษกว่า กำลังพบเจอกับความเหนื่อยยาก ที่จำต้องขาดเชื้อเพลิง ทำให้ผู้คนจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการดูแลเรื่องปัญหานี้อย่างเร่งด่วน นอกจากนั้นยังมีการสตรีค์ของกรุ๊ปบุคลากรให้บริการรถยนต์สาธารณะนับหมื่นคน เพื่อเรียกร้องการปรับค่าจ้างขึ้นให้เหมาะสมกับเงินเฟ้อ จนถึงบางวันเที่ยวบิน รถไฟ หรือการให้บริการต่างๆอาจมีความชักช้าไปบ้าง